เจ้าของรถแทบทรุด จอดทิ้งไว้ 4 วัน กลับมาเจอแบบนี้
เจ้าของรถแทบทรุด จอดทิ้งไว้ 4 วัน กลับมาเจอแบบนี้ ฝีมือเจ้าตัวแสบ แอบเอาผลวอลนัทมายัดไว้ ถึงกับต้องรื้อห้องเครื่อง เก็บใส่ถังได้รวม 42 แกลลอน เป็นสถิติใหม่
วันที่ 1 ตุลาคม 2564 เว็บไซต์ฮัฟฟ์โพสต์ มีรายงานเรื่องราวของ บิล ฟิสเชอร์ ชายจากเมืองฟาร์โก รัฐนอร์ทดาโกตา สหรัฐฯ ที่ต้องเผชิญกับความปวดตับที่เกิดขึ้นเมื่อเขาเผลอจอดรถทิ้งไว้ในบ้าน 4 วัน ขณะที่ตัวเองเดินทางไปทำงานที่อื่น ซึ่งเมื่อกลับมาอีกทีก็ต้องอึ้งเมื่อพบว่ารถบรรทุกของเขาถูกมือดีแอบนำผลวอลนัทมาซุกไว้ อัดแน่นเต็มซอกมุมต่าง ๆ ในห้องเครื่องรถยนต์ ไม่เว้นแม้แต่บังโคลน ราวกับตั้งใจจะแกล้งกัน
แค่มองดูภาพที่บิลนำมาโพสต์ลงเฟซบุ๊กก็พอที่จะทำให้เข้าใจได้ว่าทำไมเขาต้องช็อกขนาดนั้น เพื่อจะเคลียร์ผลวอลนัทเหล่านี้ออกไป บิลก็ต้องถอดชิ้นส่วนบริเวณหน้ารถออกมา และดึงบังโคลนออกมาทำความสะอาด ท่ามกลางสายตาของ “เจ้าตัวร้าย” ที่เป็นสาเหตุของเรื่องทั้งหมด
“กระรอกตัวหนึ่งจะเก็บมาตุนไว้ได้สักกี่ถังใน 4 วันนะ” บิล โพสต์ถามบนเฟซบุ๊ก
ที่แท้แล้วตัวต้นเหตุของเรื่องประหลาดนี้ก็คือ เจ้ากระรอกแดงที่อาศัยอยู่ในบริเวณดังกล่าวนั่นเอง และนี่ก็ไม่ใช่ครั้งแรกที่เกิดเหตุการณ์ลักษณะนี้ บิลบอกเลยว่าเจ้ากระรอกแดงได้อาศัยใช้รถกระบะของเขาเป็นที่ตุนผลวอลนัท ซึ่งเก็บได้จากต้นไม้ในละแวกบ้าน โดยเขาต้องเจอเรื่องแบบนี้ทุก ๆ 2 ปี มาตั้งแต่ปี 2556
“มีรถคันอื่น ๆ ที่จอดอยู่ใกล้กับต้นวอลนัทนะ แต่ก็ดันเป็นรถกระบะของผมเสมอที่โดน” บิล กล่าวพร้อมบอกว่า จริง ๆ แล้วเขาตั้งใจนำรถมาจอดบนถนนให้อยู่ห่างจากต้นวอลนัทมากที่สุดเท่าที่จะทำได้ แต่เจ้ากระรอกเหล่านี้ก็ยังตามมาจนเจอ ก่อนจะขนวอลนัทมาใส่ในรถของเขา
จริงอยู่ว่าเขาต้องเจอเรื่องชวนเอือมมาหลายครั้ง แต่ในปีนี้ดูจะหนักกว่าปีอื่น ๆ เพราะก่อนหน้านี้เขาเก็บผลวอลนัทออกมาใส่ถังขนาด 6 แกลลอน มากสุดก็เพียง 4 ถังเท่านั้น แต่สำหรับเหตุการณ์รอบนี้เขาเก็บผลวอลนัทไซซ์ใหญ่เท่าลูกมะนาวมาได้ถึง 7 ถัง รวมเป็น 42 แกลลอน ถือเป็นสถิติใหม่
“ผมต้องดึงบังโคลนรถออกมา เอาลูกวอลนัททั้งหมดออก และคิดว่าเอาออกหมดแล้วก่อนจะนำรถไปขับบนถนนนะครับ แต่ตอนที่เข้าโค้งก็ยังเห็นว่ามีอีกลูกกลิ้งตกลงมาจากรถ”
นอกจากนี้ บิลยังเล่าอีกว่า “เจ้ากระรอกจะนั่งอยู่บนต้นไม้ มองดูผมเก็บผลวอลนัทออก ราวจะบอกกับผมว่า “นั่นของฉันนะพวก” ในขณะที่มันดูผมเคลียร์เสบียงหน้าหนาวของมันทิ้ง”