เปิดรายได้ใบเตย อาร์สยาม ร้องเพลงได้เงินเท่าไหร่

ใบเตย อาร์สยาม เจ้าแม่แบรนด์เนม ช้อปปิ้งเดือนละ 5 ล้านบาท
เป็นที่ทราบกันดีว่าสาวใบเตยนั้นชื่นชอบแฟชั่นแบรนด์เนมเป็นอย่างมาก โดยก่อนหน้านี้เจ้าตัวได้เปิดกรุกระเป๋าแบรนด์เนมที่มีในรายการ พังตู้ ทางช่องยูทูบ One Playground พร้อมยอมรับว่าปัจจุบันช้อปปิ้งแต่ละเดือนไม่ต่ำกว่า 5 ล้านบาท จนขึ้นลิสต์ลูกค้าระดับ VVIP ของแทบทุกแบรนด์ดัง ซึ่งบางแบรนด์นั้นต้องซื้อรวมกันทั้งปีไม่ต่ำกว่า 15 ล้านบาท ถึงจะได้เป็น

ทั้งนี้ กระเป๋าแต่ละใบของเธอก็ล้วนแต่เป็นรุ่นแรร์และหายากทั้งนั้น หรือเป็นใบที่ Global Brand Ambassador ใช้ เพราะคนต้องการซื้อตามสูง ราคาจะขึ้นในภายหลัง อาทิ Hermès รุ่น Crocodile Kelly ที่ทำจากหนังจระเข้สายพันธุ์หายาก สนนราคา 2,500,000 บาท มีแค่ 10 ใบในไทยเท่านั้น CELINE ใบเดียวกับที่ ลิซ่า BLACKPINK ถือ ราคา 130,000 บาท ซึ่งหายากมาก และมีแค่ 3 ใบในไทยเท่านั้น ส่วนกระเป๋าที่มีมากที่สุดคือ Chanel เพราะถือเป็นแบรนด์ที่น่าลงทุน ไม่เพียงเท่านั้น สาวใบเตยยังมีแฟชั่นเสื้อผ้าแบรนด์ไฮเอนด์อีกมากมาย สมฐานะนักร้องตัวแม่จริง ๆ

คลังแสงรถหรู ใบเตย อาร์สยาม
ขยับมาดูข้าวของเครื่องใช้ชิ้นใหญ่ขึ้นมาอย่างพาหนะคู่ใจของ ใบเตย อาร์สยาม กันบ้าง โดยเมื่อปี 2564 สามีสุดที่รัก ดีเจแมน ได้ถอยรถหรู Porsche รุ่น Panamera 4E-Hybrid พร้อมป้ายทะเบียน ก-9999 ราคา 8 หลัก เป็นของขวัญวันเกิดให้กับภรรยาสาว รวมถึงก่อนหน้านี้ ใบเตยยังมีรถหรูอีกหลายคัน ไม่ว่าจะเป็น Mercedes-Benz C-coupe 180, Porsche 718 Cayman หรือ Toyota Alphard SC ซึ่งราคาของรถแต่ละคันนั้นก็ไม่ธรรมดาเช่นเดียวกัน

บ้านหลังงาม ราคา 50 ล้าน
อีกหนึ่งเรื่องที่ทำเอาหลายคนตาลุกวาวก็เห็นจะเป็นบ้านหรู ราคากว่า 50 ล้าน ที่ซื้อเอาไว้เป็นของขวัญสำหรับต้อนรับลูกสาวคนแรกของครอบครัวนั่นเอง ซึ่งทางใบเตยและดีเจแมนได้พาทัวร์บ้าน ผ่านทางช่องยูทูบ Bitoey Family ด้วย โดยตัวอาคารนั้นเป็นบ้านเดี่ยว 2 ชั้น ขนาดพื้นที่ 130 ตารางวา รายล้อมไปด้วยต้นไม้สีเขียวร่มรื่น ชั้นล่างของบ้านประกอบไปด้วยห้องโถงห้องนั่งเล่นเพดานสูง บรรยากาศปลอดโปร่ง ห้องกินข้าว ครัวฝรั่ง และครัวไทย ส่วนชั้นบนประกอบด้วยพื้นที่สำหรับครอบครัว ห้องพระ และห้องนอน ที่มีทั้งห้องนอนของลูก และ Master Bedroom พร้อมห้องน้ำและ Walk-in Closet ในตัว เรียกว่าจัดไว้อย่างสวยงามและน่าอยู่สุด ๆ

นอกจากนั้น ใบเตยยังเคยให้สัมภาษณ์ในรายการหนึ่งว่า เธอได้เปิดแอร์ให้กับเฟอร์นิเจอร์ทั้งบ้าน แถมยังเปิดทั้งวันฉ่ำ ๆ แบบไม่ห่วงเรื่องค่าไฟ เพราะสามีเป็นคนดูแลค่าใช้จ่ายส่วนนี้อีกด้วย

จัดทริปท่องเที่ยวแบบไม่พัก
ในเวลาว่างจากการทำงาน สาวใบเตยยังมักจะหอบครอบครัวเดินทางท่องเที่ยวทั้งในประเทศและต่างประเทศอยู่เสมอ โดยเฉพาะประเทศญี่ปุ่นที่เธอโปรดปรานเป็นพิเศษ ซึ่งก็แน่นอนว่าขึ้นชื่อ ใบเตย อาร์สยาม แล้ว แฟชั่นในแต่ละทริปก็ไม่มีคำว่าเรียบง่ายอย่างแน่นอน แต่หลังจากทั่วโลกต้องเผชิญกับโรคโควิด 19 ทริปท่องเที่ยวจึงสะดุดลงบ้าง พอสถานการณ์เริ่มกลับสู่ปกติ สาวใบเตยก็ไม่รอช้าจัดทริปเยือนประเทศสวีเดนในรอบ 2 ปี อีกทั้งล่าสุดยังพาลูกสาวและคุณแม่บินไปเที่ยวพักผ่อนที่ประเทศสิงคโปร์ เพื่อช้อปปิ้งและท่องเที่ยวตามสถานที่ต่าง ๆ ตามประสาแม่ลูก จนกลายเป็นประเด็นวิพากษ์วิจารณ์

ค่าตัวใบเตย อาร์สยาม และธุรกิจอื่น ๆ
จากไลฟ์สไตล์สุดหรูของใบเตย ทำให้ใคร ๆ ต่างก็อยากรู้ถึงรายได้และค่าตัวในการร้องเพลงของเธอ ซึ่งเธอได้เคยเปิดใจในรายการ WOODY HELP ME PLEASE ว่าการเป็นนักร้องของเธอนั้นเป็นไปแบบค่อนข้างก้าวกระโดด เนื่องจากโด่งดังภายในปีเดียว โดยเฉพาะจากเพลงสุดฮิตอย่าง แน่นอก และทำให้ค่าตัวพุ่งสูงขึ้นเป็น 300,000 บาทต่องานเลยทีเดียว ซึ่งใครที่ได้ชมโชว์ของเธอก็ไม่มีผิดหวัง เพราะเธอจัดเต็มทั้งการร้อง เต้น ยิ่งชุดที่เธอใส่ออกงานนั้นก็มีความเริดสมราคาฉายาของเธอจริง ๆ

สำหรับรายได้อื่น ๆ ของเธอนั้นยังมาจากธุรกิจส่วนตัว ทั้งร้านทำเล็บสุดหรูย่านทองหล่อ และธุรกิจใหม่อย่างคลินิกกึ่งโรงพยาบาลศัลยกรรม ที่ลงทุนกับหุ้นส่วนรวมกันเกือบ 100 ล้านบาท และการเป็นยูทูบเบอร์ที่มีผู้ติดตามกว่า 3 แสนซับ จึงอาจจะไม่น่าแปลกใจนักที่เธอจะสร้างรายได้ร่วมหลายล้านบาทต่อปี

บอกเลยว่านับตั้งแต่ก้าวมาเป็นนักร้องลูกทุ่งระดับซุปตาร์จนถึงปัจจุบัน คำว่าสวยและรวยมาก คงนิยามความเป็น ใบเตย สุธีวัน ได้อย่างชัดเจนที่สุดในเวลานี้